เมนู

ทุติยวรรคที่ 2



1. ปฐมเทวสูตร



ว่าด้วยวัตรบท 7



[905] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน
อารามของอนาถบิณฑิกเศรษฐี กรุงสาวัตถี ในกาลครั้งนั้นแล ฯลฯ
[906] พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้ง
หลาย ท้าวสักกะจอมเทพเมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อน ได้สมาทานวัตรบท
7 ประการบริบูรณ์ เพราะเป็นผู้สมาทานวัตรบท 7 ประการ จึงได้ถึงความ
เป็นท้าวสักกะ วัตรบท 7 ประการ เป็นไฉน คือ เราพึงเลี้ยงมารดาบิดาจนตลอด
ชีวิต 1 เราพึงประพฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูลจนตลอดชีวิต 1 เราพึงพูด
วาจาอ่อนหวานตลอดชีวิต 1 เราไม่พึงพูดวาจาส่อเสียดตลอดชีวิต 1 เราพึงมีใจ
ปราศจากความตระหนี่อันเป็นมลทินอยู่ครองเรือน มีการบริจาคอันปล่อยแล้ว
มีฝ่ามืออันชุ่มยินดีในการสละ ควรแก่การขอ ยินดีในการแจกจ่ายทานตลอด
ชีวิต 1 เราพึงพูดคำสัตย์ตลอดชีวิต 1 เราไม่พึงโกรธตลอดชีวิต ถ้าแม้ความ
โกรธพึงเกิดขึ้นแก่เรา เราพึงกำจัดมันเสียโดยฉับพลันทีเดียว 1 ดูก่อนภิกษุทั้ง
หลาย ท้าวสักกะจอมเทพ เมื่อยังเป็นมนุษย์อยู่ในกาลก่อน ได้สมาทานวัตร
บท 7 ประการนี้บริบูรณ์ เพราะเป็นผู้สมาทานวัตรบท 7 ประการ ดังนี้ จึง
ได้ถึงความเป็นท้าวสักกะ.
[907] พระผู้มีภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบ
ลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า

เทวดาชั้นดาวดึงส์ กล่าวถึงนรชน
ผู้เป็นบุคคล เลี้ยงมารดาบิดามีปกติประ-
พฤติอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล เจรจา
อ่อนหวาน กล่าวคำสมานมิตรสหาย ละ-
คำส่อเสียด ประกอบในอุบายเป็นเครื่อง
กำจัดความตระหนี่ มีวาจาสัตย์ ครอบงำ
ความโกรธได้ นั้นแลว่า เป็นสัปบุรุษดังนี้
.

อรรถกถาปฐมเทวสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในปรมเทวสูตรที่ 1 แห่งทุติยวรรค ต่อไปดังนี้ :-
บทว่า วตฺตปทานิ ได้แก่ ส่วนแห่งวัตร. บทว่า สมตฺตานิ คือ
บริบูรณ์แล้ว. บทว่า สมาทินฺนานิ คือถือเอาแล้ว. บทว่า กุเล เชฏฺฐา-
ปจายี
ความว่า กระทำความยำเกรงผู้เป็นใหญ่ในตระกูลเป็นต้นว่า ปู่ ย่า อา
น้า ลุง ป้า. บทว่า สณฺหวาโจ ได้แก่ มีวาจาน่ารักอ่อนหวาน. บทว่า
มุตฺตาจาโค ได้แก่ เสียสละ. บทว่า ปยตปาณี ได้แก่ ล้างมือเพื่อให้ไทย
ธรรม. บทว่า โวสฺสคฺครโต ได้แก่ ยินดีในการสละ. บทว่า ยาจโยโค
ได้แก่ เป็นผู้ควรที่คนอื่นจะพึงขอ หรือว่า ผู้ประกอบด้วยการบูชานั่นแล ชื่อว่า
ยาจโยโค. บทว่า ทานสํวิภาครโต ได้แก่ ยินดีแล้วในการให้และการแจก.
จบ อรรถกถาปฐมเทวสูตรที่ 1